เมนู

ครั้งนั้น พระโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็นผู้ปกครองมหารัฐ นามว่า
ชฏิละ ได้ถวายทานพร้อมทั้งจีวรแก่หมู่ภิกษุมีพระพุทธเจ้าเป็นประมุข แม้พระ
ปทุมุตตรพุทธเจ้าพระองค์นั้นก็ได้พยากรณ์พระโพธิสัตว์ว่า ในอนาคตกาลชฏิละ
นี้จักเป็นพระพุทธเจ้า ดังนี้ ก็ในกาลแห่งพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระนามว่า
ปทุมุตตระ ชื่อว่าผู้เป็นเดียรถีย์มิได้มี เทวดาและมนุษย์ทั้งปวงได้ถึงพระพุทธ
เจ้าเท่านั้นเป็นสรณะ พระนครของพระผู้มีพระภาคเจ้า นามว่า หังสวดี พระ
บิดาเป็นกษัตริย์พระนามว่า อานันทะ พระมารดา พระนามว่า สุชาดา
พระเทวิลเถระและพระสุชาตเถระเป็นคู่พระอัครสาวก พระอุปัฏฐาก นามว่า
สุมนะ พระอมิตตาเถรี และพระอสมาเถรี เป็นคู่พระอัครสาวิกา ไม้สาละ
เป็นไม้ตรัสรู้ พระสรีระสูง 88 ศอก รัศมีพระวรกายแผ่ไป 12 โยชน์
พระชนมายุหนึ่งแสนพรรษาแล.
จบปทุมุตตรกถา

สุเมธกถาที่ 11



ในกาลต่อจากพระปทุมุตตรพุทธเจ้าพระองค์นั้นล่วงไปสามหมื่นกัป ใน
กัปหนึ่งมีพระพุทธเจ้าทรงอุบัติขึ้น 2 พระองค์ คือ พระสุเมธพุทธเจ้า และ
พระสุชาตพุทธเจ้า สาวกสันนิบาตแม้ของพระสุเมธพุทธเจ้าก็มี 3 ครั้ง ครั้ง
แรกที่พระนครสุทัศนะมีภิกษุขีณาสพหนึ่งร้อยโกฏิ ครั้งที่ 2 เก้าสิบโกฏิ ครั้ง
ที่ 3 แปดสิบโกฏิ.
ครั้งนั้น พระโพธิสัตว์เป็นมาณพ นามว่า อุตตระ สละทรัพย์ที่ฝัง
เก็บไว้ถึง 80 โกฏิ ถวายมหาทานแก่หมู่ภิกษุมีพระพุทธเจ้าเป็นประมุข ฟัง-